ยา Vetmedin มีกี่แบบ

2 วันที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

หลายๆท่านที่มีน้องหมาน้องแมวเป็นโรคหัวใจและวินิจฉัยโรคแล้วว่าเป็นโรคหัวใจที่สามารถรักษาด้วย Vetmedin ( pimobendan) ได้ อาจจะเคยเห็นยาตัวนี้แค่ตามขนาดที่สัตวแพทย์สั่งจ่ายมาให้ โดยขนาดที่สัตวแพทย์นิยมใช้จะเป็น Vetmedin 5mg และขนาด 1.25mg ที่เป็นแบบเม็ด โดยบริษัทที่ผลิตยา Vetmedin ได้ผลิตยาตัวนี้ออกมาให้หลายรูปแบบเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยถ้าแบ่งตามลักษณะยาสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทดังนี้

1. แบบเม็ดเคี้ยว (Chewable) แบบนี้จะใช้กันมากที่สุดเพราะสะดวกในการใช้งาน

2. แบบแคปซูล ( capsule) จะเป็นแคปซูลสีส้มขาว

3. แบบน้ำ ( Liquid) แบบนี้ยังไม่เป็นที่นิยมในบ้านเรา

Vetmedin แบบเม็ดเคี้ยว ( Chewable) แต่ละขนาดต่างกันอย่างไร

แต่ละขนาดจะต่างกันที่ปริมาณยาทำให้ขนาดเม็ดยามีขนาดต่างกันไปด้วย นอกจากปริมาณยาและขนาดเม็ดยาที่ต่างกันแล้ว ราคาก็จะต่างกันด้วยเช่นกัน โดยความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนขนาด 5mg จะเป็นขนาดที่คุ้มค่าที่สุด เพราะสามารถมาหั่นแบ่งให้เป็นขนาดเล็กลงได้ ตามปริมาณโดสยาต่อมื้อที่สัตว์เลี้ยงของเราต้องทาน โดยปริมาณโดสยาที่ต้องทานต่อมื้อ สัตวแพทย์จะเป็นผู้กำหนดให้ โดยจะดูจาก น้ำหนักของสัตว์,อาการของโรค, ดูความผิดปกติของการทำงานหัวใจ และโรคแทรกซ้อน โดยถ้าอาการยังไม่รุนแรงมาก หมดจะให้ยาในปริมาณที่ต่ำก่อน และจะค่อย monitor อาการต่อไป เพื่อปรับยาให้เหมาะสม ซึ่งโรคหัวใจในสุนัขและแมว เป็นโรคที่ไม่มียาที่รักษาให้หายขาดได้ ยา Vetmedin ที่มีตัวยา Pimobendan เป็นยาที่ช่วยให้หัวใจทำงานดีขึ้น โดยการทำงานของตัวยา Pimobendan จะช่วยในเรื่องการบีบตัวของหัวใจและช่วยขยายหลอดเลือดเพื่อให้เลือดมีการไหลเวียนไปสู่อวัยวะต่างๆ ได้ดีขึ้น

ด้วยประสิทธิภาพของยา Vetmedin ตัวนี้ จึงเป็นเหมือนตัวช่วยการบีบตัวของหัวใจไม่ให้ทำงานหนักจนเกินไป เพราะการปล่อยให้หัวใจที่มีความเสื่อมทำงานหนัก จะส่งผลเสียกับร่างกายสุนัขโดยถ้าเป็นในระยะเริ่มต้น ร่างกายสัตว์จะมีกลไลที่ทำให้เราไม่เห็นอาการที่แสดงออกมา แต่เมื่อหัวใจเริ่มเสื่อมมากขึ้น ร่างกายไม่สามารถซ่อนอาการเหล่านี้ได้ สัตว์เลี้ยงของเราก็จะแสดงอาการของโรคหัวใจมาให้เราเห็น โดยอาการของโรคหัวใจ จะแสดงออกได้หลายแบบ ซึ่งบางอาการก็จะคล้ายกับโรคอื่น ดังนั้น ถ้าพบกว่าสัตว์ของท่านมีอาการคล้ายกับโรคหัวใจ ขอให้รีบพาสัตว์เลี้ยงของท่านไปพบสัตวแพทย์ที่มีความชำนาญด้านโรคหัวใจให้เร็วที่สุด เพื่อจะแพทย์จะได้วินิจฉัยว่าสัตว์เลี้ยงของท่านเป็นโรคหัวใจหรือไม่ ถ้าเป็นจะได้ทำการรักษาได้ทันถ่วงนี้ต่อไป