จะทำอย่างไรกันดีถ้าสุนัขเป็นโรคหัวใจ?

7 เดือนที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

สุนัขเป็นโรคหัวใจ ทำอย่างไรกันดี!

เป็นเรื่องปกติ เมื่อเจ้าของสุนัขรู้ว่าสุนัขของตัวเองป่วยเป็นโรคหัวใจ จะต้องอยากรู้ว่าจะเลี้ยงดูสุนัขแบบไหนดี? แบบเดิมที่ทำอยู่ยังทำได้หรือไม่? ต้องดูแลแบบไหนคือแบบที่ดีที่สุด?

เพราะเราเชื่อว่าเจ้าของสุนัขทุกคนจะหาสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ให้แก่สุนัขของตัวเอง และต้องการที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่กับสุนัขของตัวเองให้ได้นานสุด

ในการดูแลสุนัขที่เป็นโรคหัวใจ เราต้องรู้จักวิธีการดูแลให้ถูกต้องเสียก่อน มันไม่ยากจนเกินไปในการเรียนรู้ และเป็นสิ่งที่เจ้าของสุนัขทุกคนสามารถทำได้

ทีนี้เรามาดูกันสิว่า การดูแล สุนัข ที่เป็นโรคหัวใจ ต้องทำอะไรกันบ้าง ! โดยเริ่มจาก เรื่องที่ใกล้ตัวที่สุด ซึ่งคุณเอง ก็อาจจะทำอยู่แล้ว เพียงแต่เราจะต้องเพิ่มความใส่ใจและเคร่งครัดในวิธีการทำให้มากขึ้น

1. ออกกำลังกายเบาๆ :

การพาสุนัขออกกำลังกายเบาๆตามความเหมาะสม เป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ต้องเช็คสภาพร่างกายสุนัขก่อนว่าพร้อมในการออกกำลังกายหรือไม่ เลือกสถานที่ในการออกกำลังกายให้มีความเหมาะสมเช่น

ไม่ควรเป็นที่ที่มีอากาศร้อนจนเกินไป
เวลาที่พาสุนัขไปออกกำลังกายควรเป็นช่วงที่ไม่ร้อน

ประเภทกีฬาที่ใช้ในการออกกำลังกายควรเป็นการพาเดินช้า มากกว่าพาไปวิ่ง เพราะเราไม่ต้องการให้สุนัขเหนื่อยจนเกินไป หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หนักเกินไปเพราะจะทำให้หัวใจทำงานหนัก

ในช่วงเวลาที่พาสุนัขออกกำลังกายไม่ควรให้เดินนานเกินไป และหมั่นคอยสังเกตอาการสุนัข หากเห็นว่าสุนัขมีอาการเหนื่อยหอบให้หยุดทันทีและรีบพาสุนัขออกจากสถานที่ที่มีความร้อนทันที อย่าปล่อยสุนัขให้เดินตามลำพัง ควรมีคนคอยสังเกตสุนัขอยู่ใกล้ๆตลอดเวลา

2. สังเกตพฤติกรรมของสุนัข :

มั่นสังเกตพฤติกรรมและร่างกายสุนัขว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ ให้เปรียบเทียบกับอาการที่สุนัข เป็นโรคหัวใจช่วงแรกๆ ว่าสุนัขมีอาการซึมกว่าเดิมไหม?

พฤติกรรมการทานอาหารและน้ำน้อยลงกว่าเดิมไหม? น้ำหนักตัวลดลงไหม? หายใจถี่และดูเหนื่อยกว่าเดิมไหม? หากพบสิ่งเหล่านี้ให้รีบไปปรึกษาแพทย์ให้เร็วที่สุด

3. อาหารสำหรับสุนัขโรคหัวใจ :

การเลือกอาหารที่เหมาะกับโรคหัวใจ ควรเลี่ยงอาหารที่มีการปรุงรส ไม่ควรทานอาหารที่มีรสเค็มหรือมีส่วนผสมของโซเดียมในปริมาณที่สูงเพราะจะทำให้หัวใจทำงานหนัก ซึ่งไม่เป็นผลดีกับสุนัขที่เป็นโรคหัวใจ

ในปัจจุบัน มีอาหารสุนัขสำหรับโรคหัวใจโดยเฉพาะ ซึ่งก็เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกทางหนึ่งเช่นกัน เพราะการเลือกอาหารที่เหมาะกับโรคหัวใจก็จะช่วยชะลออาการของโรคไม่ให้รุนแรงขึ้นได้

4. พาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ และทานยาตามกำหนด :

สุนัขที่เป็นโรคหัวใจ จะต้องทานยาเพื่อ Vetmedin ที่ช่วยการทำงานของหัวใจ ซึ่งต้องกินอย่างต่อเนื่องตามสัดส่วนที่สัตวแพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด นั่นหมายถึงไม่ควรกินยาผิดไปจากสิ่งที่แพทย์กำหนด เพราะจะมีผลกับอาการป่วยของสุนัข สำหรับโรคหัวใจ

แพทย์จะมีการเฝ้าติดตามอาการเป็นระยะ สัตวแพทย์จะมีการนัดหมายล่วงหน้า และเจ้าของสุนัขควรพาสุนัขไปตรวจติดตามอาการ เพื่อที่จะได้รู้ว่าเมื่อทานยาไปแล้ว ร่างกายมีการตอบสนองอย่างไร ?

จำเป็นต้องมีการปรับยาหรือไม่? ซึ่งสิ่งเหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณต้องพาสุนัขไปพบแพทย์ตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ และทานยาให้ตรงตามเวลาและครบโดสเพื่อให้ได้ผลการรักษาออกมาดีที่สุด

เห็นไหมว่า หลายๆข้อที่กล่าวมา คุณสามารถทำได้โดยที่ไม่ใช่เป็นเรื่องยากจนเกินไป ถ้าคุณไม่มีเวลาที่จะคอยสังเกตหรือดูแลสุนัขคุณอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา คุณสามารถให้คนใกล้ชิดคนอื่นมาดูแลแทนคุณได้ โดยที่คุณต้องอธิบายวิธีการดูและการสังเกต

ตามสิ่งที่ได้อธิบายมาทั้งหมดนี้ ให้กับบุคคลที่จะมาดูแลสุนัขของคุณ ในเวลาที่คุณไม่ว่างหรือติดธุระ เพราะโรคหัวใจเป็นโรคที่ สามารถทำให้สุนัขของคุณเสียชีวิตแบบฉับพลันได้ตลอดเวลา

หากเราไม่ใส่ใจในเรื่องเหล่านี้ ก็จะเป็นการเร่งให้อาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว ในทางโครงการข้าม หากเราเรียนรู้วิธีการดูแลอย่างถูกต้อง สุนัขของเราก็จะมีชีวิตที่ดีและอายุยาวขึ้น ดังนั้นคุณคือคนที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้สุนัขของคุณมีชีวิตที่ดีขึ้นพร้อมความรักและความใส่ใจที่มีให้เขาตลอดเวลา

Vetmedin, Pimobendan, Cardisure, สุนัขโรคหัวใจ