หลายท่านคงสงสัยว่าทำไมสุนัขของเพื่อนบ้าน สุนัขใน youtube หรือ tik tok ที่เราเห็น ถึงฉลาด ทำตามคำสั่งได้ต่างๆนานา เป็นเพราะสุนัขเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนการผู้เลี้ยงมาเป็นอย่างดี โดยความฉลาดและความไวในเรียนรู้ของสุนัขแต่ละตัวจะไม่เหมือนกัน
ในการฝึกสุนัขให้ทำตามคำสั่งจะมีเทคนิคเล็กๆน้อยๆที่ผู้เลี้ยงมือใหม่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ซึ่งเทคนิคเหล่านี้ควรใช้กับสุนัขที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่ได้เป็น
โรคหัวใจหรือโรคอื่นๆ หรือไม่สบาย และควรฝึกกับสุนัขที่มีสุขภาพจิตปกติ โดยเทคนิคทั้ง 4 อย่างมีดังนี้
1. การฝึกโดยทำให้ชิน เราสามาถฝึกสุนัขได้ตั้งแต่สุนัขยังเด็กๆ โดยปกติเราควรรับสุนัขมาเลี้ยงตอนอายุ 2 - 3 เดือน ซึ่งเป็นวัยที่ได้เรียนรู้พัฒนาการต่างๆจากแม่สุนัขมาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อมาอยู่บ้านใหม่เขาจะสามารถปรับตัวได้เร็ว ซึ่งในช่วงวัยนี้ เราควรฝึกลูกสุนัขให้ขับถ่ายเป็นที่ก่อน โดยคอยสังเกตพฤติกรรมเขา เมื่อลูกสุนัขต้องการขับถ่าย ลูกสุนัขจะทำการดมๆ และจะหมุนตัว ในช่วงเวลาที่เราเห็นเขาดมๆ หรือ หมุดตัว ให้เรารีบอุ้มเขาไปอยู่ในจุดที่เราต้องการให้เขาขับถ่ายทันที และเมื่อเขาขับถ่ายได้ในจุดที่เราต้องการ เราก็ควรชมเขาเพื่อให้เขาเข้าใจว่าเขาทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว การฝึกแบบนี้ให้ทำซ้ำๆจนสุนัขชิน เมื่อสุนัขเดินไปขับถ่ายในจุดเดิมได้เองแล้ว เราก็ไม่ต้องอุ้มเขาแล้ว
2. การฝึกโดยการให้รางวัล เมื่อสุนัขเริ่มโตขึ้น เขาจะเรียนรู้สิ่งต่างๆได้ไว้ขึ้น การฝึกด้วยคำสั่งที่ยากขึ้นสามารถทำได้ โดยการสั่งคำสั่งสั้นๆ เช่น นั่ง นอน คอย การให้รางวัลเมื่อสุนัขทำตามคำสั่งจะช่วยให้การฝึกง่ายขึ้น การจับจังหวะในการสั่งและการให้รางวัลถือเป็นเรื่องสำคัญ เราต้องเป็นคนกำหนดเงื่อนไขให้สุนัขทำตาม เมื่อสุนัขทำตามคำสั่งแล้ว เราควรให้รางวัลทันทีซึ่งสุนัขจะได้จดจำไว้ว่าเมื่อทำสิ่งนี้ตามคำสั่งแล้ว จะได้ขนมเป็นรางวัลตอบแทนทันที สิ่งที่สำคัญที่ต้องระวังในการให้รางวัลคือ เราต้องไม่ให้ตอนที่สุนัขเห่าสั่ง เพราะจะกลายเป็นว่าสุนัขเห่าสั่งเราแทน การฝึกบางอย่างเช่น การให้สุนัขวิ่งไปคาบสิ่งของกลับมาให้ไม่ควรฝึกกับสุนัขที่ทานยา
vetmedin หรือ
pimobendan อยู่ เพราะการวิ่งจะทำให้สุนัขเหนื่อยและหัวใจจะทำงานหนัก ซึ่งจะไม่เป็นผลดีกับสุนัขนั้นเอง
3. การฝึกโดยปราศจากความเครียดหมายถึง บรรยากาศการฝึกควรเป็นด้วยความผ่อนคลาย ผู้สอนและสุนัขต้องไม่อยู่ในสภาวะตึงเครียด เพราะสุนัขสามารถรับรู้อารมณ์เราได้ การฝึกจะไม่ได้ผลที่ดีหากสอนโดยมีความเครียด
4. การฝึกในสถานที่ที่สงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน การฝึกสุนัขควรฝึกที่ที่ไม่เสียงดังเพราะสุนัขต้องมีสมาธิในการฟังคำสั่งเรา หากสถานที่ตรงนั้นมีเสียงดัง หรือมีคนเดินไปมาพลุกพล่าน สุนัขจะไม่มีสมาธิกับสิ่งที่เรากำลังฝึก เสียงรอบข้างและคนที่อยู่รอบข้างจะดึงความสนใจของสุนัขไปแทน การฝึกก็จะไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร
การฝึกสุนัขต้องใช้เวลาในการฝึก ควรฝึกสุนัขบ่อยๆ แต่ใช้เวลาไม่นาน เพราะถ้าฝึกนานไปจะทำให้สุนัขรู้สึกเครียด และสุนัขจะไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร ระยะเวลาในการฝึกไม่มีกำหนดตายตัว แต่การฝึกในเวลาสั้นแต่บ่อยจะดีกว่าฝึกทีละนานๆแต่ไม่บ่อย ทั้งนี้การฝึกสุนัขให้ทำตามคำสั่งควรคำนึกถึงสุขภาพและความพร้อมของสุนัขด้วย ถ้าสุนัขไม่แข็งแรง ก็ควรงดการฝึกไปก่อน หรือถ้าสุนัขมีปัญหาเรื่องหัวใจ ก็ไม่ควรฝึกให้สุนัขเหนื่อยเกินไป เพราะถึงแม้เราจะให้สุนัขทานยา
vetmedin ที่รักษาโร
สุนัขโรคหัวใจแล้ว เราก็ต้องเลี่ยงการฝึกที่หนักด้วย